อาหารผู้ป่วยโรคตับ
- ข้าวกล้อง นอกจากมีคารโบไฮเดรตและโปรตีนแล้ว ยังมีวิตามินบี 1 มากกว่าข้าวขาว ซึ่งช่วยในการแยกสลายคาร์โบไฮเดรต หรือกลูโคส ในการทานแต่ละมื้อควรกินแค่เกือบ 1 จาน หรือจานเล็ก ถ้าน้อยไปจะขาดพลังงาน แต่ถ้ามากไปกลายเป็นไกลโคเจนสะสมอยู่ เกิดภาวะไขมันสะสมในตับ
- โปรตีนจากอาหารต่างๆ ตับต้องการใช้โปรตีนสร้างเอ็นไซน์และเซลล์ตับเพื่อชดเชยส่วนที่สึกหรอ โดยเฉพาะช่วงที่ตับอ่อนแอ ควรทานโปรตีนที่มีคุณภาพ เช่น โปรตีนจากปลา เพราะย่อยง่าย ไขมันน้อย มีวิตามินอีช่วยป้องกันอนุมูลอิสระ ปลาที่ทานควรเป็นปลาที่มีเกล็ด ปลาไม่มีเกล็ดส่วนมากมีไขมันสูง
- เต้าหู้และถั่วต่างๆ รวมทั้ง งา เช่น ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ถั่วแระ ถั่วพู ถั่วเขียว งาขาว งาดำ เป็นต้น ตระกูลถั่วนอกจากมีโปรตีนสูงแล้วยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูตับ และยังเปี่ยมด้วยวิตามินบี 1 วิตามินอี แคลเซียม จัดว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ควรเลือกซื้อถั่วที่ใหม่ สะอาด ไม่มีเชื้อรา
- ตระกูลเห็ดทั้งหลายที่ทานเป็นอาหาร
- ฟักทอง มันเทศเนื้อสีม่วง เผือก ผักบุ้ง ถั่วงอก ผักกาดขาว
- ขมิ้นชัน สาหร่ายทะเล ไข่ และตับ
อาหารบำรุงตับ
- โปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่สุกสะอาด โดยเฉพาะปลามีโอเมก้า3 รวมถึง นมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวย ไข่ต้มกินเฉพาะไข่ขาว
- ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ส้ม มะขามป้อม มะละกอ กีวี่ เป็นต้น ลดการอักเสบและช่วยการทำงานของตับให้ดีขึ้น
- ข้าวกล้อง ข้างไรซ์เบอรี่ ถั่วแดง ถัวเขียว เป็นต้น ซึ่งธัญพืชต่างๆ เหล่านี้มีไฟเบอร์สูง ช่วยในระบบขับถ่าย และช่วยดูดซับไขมัน
- น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า มีส่วนช่วยในการลดไขมันตัวร้าย ( LDL) และเพิ่มไขมันตัวดี (HDL)
- เห็ดต่างๆ เห็ดหลินจือ เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม ช่วยลดไขมันที่สะสมในตับ ต่อต้านการเกิดมะเร็ง และเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดขาวด้วย
- บีทรูท จะมีสารฟลาโวนอยด์ ที่ตับต้องการไปบำรุง
- อะโวคาโด มีกลูตาไธโอน ช่วยล้างพิษสะสมในตับ
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักกาดหอม รวมถึงผักใบเขียวชนิดอื่นๆ จะมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับ
- ผักประเภทหัว อาทิ กะหล่ำปลี จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มกลูตาไธโอน ทำให้ล้างสารพิษ บำรุงตับได้เป็นอย่างดี บรอกโคลี มันเทศ ที่มีกลูโคซิโนเลต ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์
ตับแข็งสามารถป้องกันได้ โดยงดดื่มสุรา ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีไขมันสูง
อาหารสุกๆดิบๆ เพราะจะมีพยาธิใบไม้ตับได้ และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ดูแลสุขภาพตับ
ตับเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์ ตับเป็นอวัยวะใหญ่ที่สุดของร่างกาย และเป็นอวัยวะเพียงชิ้นเดียวที่งอกขึ้นใหม่ได้แม้ถูกตัดออกไป 2 ใน 3 ส่วนที่เหลือก็ยังคงทำงานได้ตามปกติหากตับที่เหลืออยู่ยังแข็งแรง
และ 1 ปีหลังจากนั้น ตับจะค่อยๆ งอกจนมีขนาดประมาณ 80% ของตับเดิม
ตับ เป็นทั้งแหล่งผลิต สะสมพลังงาน และทำลายขยะ อาหารทุกชนิดที่ผ่านการย่อย
และดูดซึมมา จากกระเพาะอาหารและลำไส้ เซลล์ตับเมื่อรับของเสียมา ของเสียต่าง ๆ
จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นโมเลกุลหรือสารที่เหมาะสมขับออก จากเซลล์ตับไปท่อน้ำดี
ตับแข็งสามารถป้องกันได้ โดยงดดื่มสุรา ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่มีไขมันสูง
อาหารสุกๆดิบๆ เพราะจะมีพยาธิใบไม้ตับได้ และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ
อาหารบำรุงตับ
- เนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก มีกรดอะมิโนและโปรตีนที่ครบถ้วน หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ กึ่งสุขกึ่งดิบ
- ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมคเคอเรล มีโอเมก้า3 ที่ช่วยลดการอักเสบช่วยให้ค่าตับดีขึ้น
- ผลไม้วิตามินซีสูง ส้ม มะขามป้อม มะละกอ กีวี่ ช่วยลดการอักเสบช่วยให้ตับทำงานดีขึ้น
- พืชตระกูลเบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง บำรุงตับ บำรุงสายตา บำรุงสมอง ป้องกันความเสี่ยมของเซลล์ตับ
และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
- ธัญพีชต่างๆ เช่น ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ข้าวโพดข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ ข้าวสาลี มีไฟเบอร์สูง ลดการดูดซึมไขมัน ลดการเกิดไขมันพอกตับ
- ถั่ว เช่น อัลมอนด์ ถั่วแดง ถั่วเขียว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดพืชต่าง ๆ ถือเป็นไขมันดี โปรตีนชั้นดี และมีกากใย ช่วยเอนโซม์ของตับ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดไขมันพอกตับ
- น้ำมันชนิด MUFA สูง เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า รลดไขมันตัวร้าย ( LDL) และเพิ่มไขมันตัวดี (HDL)
ซึ่ง HDL ช่วยกำจัดไขมันชนิดร้ายออกจากร่างกาย ลดภาวะไขมันพอกตับได้
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
- กรณีที่มีน้ำในท้อง ท้องโตท้องมาน ให้รับประทานอาหารจืด อย่าเติมเกลือหรือน้ำปลา
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟาท็อกซิน ได้แก่ พวกถั่วลิสงตากแห้ง พริกป่น ปลาเค็ม
- งดรับประทานอาหารทะเลสุกๆ ดิบๆ เพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงจนช็อกและเสียชีวิตได้
- งดอาหารหมักดอง อาหารไขมันสูง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์